PRONTO DENIM CARNIVAL 2019 – STUDIO D’ARTISAN

ทุกครั้งที่ STUDIO D’ARTISAN มี Collection ใหม่ออกมา ถือได้ว่าน่าติดตามในทุก ๆ ครั้ง งานของพวกเขามักสร้างความน่าสนใจด้วยการเอาความเป็น STUDIO D’ARTISAN ไปผสมกับสิ่งที่พวกเขาอยากนำเสนอ โดยจะเห็นได้ชัดจากคาแรคเตอร์สำคัญอย่าง “เจ้าหมู” โลโก้อันเป็นภาพจำของแบรนด์ ที่ถูกนำไปเป็นตัวละครเอกในหลาย ๆ เรื่องราวของทางแบรนด์ ทำให้หลาย ๆ คนชื่นชอบพวกเขาที่มักสร้างงานสนุกสนานออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน งานของพวกเขามักพาเราไปอยู่ในจุดที่มีทั้งความขบขัน และแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง มีความหยอกล้อ หรือบางครั้งก็เสียดสีกับบางสิ่งให้เราได้เห็นกันอยู่เสมอ

[ส่วนหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดใน Collection นี้]

ครั้งนี้ใน Collection สำหรับ PRONTO DENIM CARNIVAL 2019 ก็ด้วยเช่นกัน ทางแบรนด์ใช้ความหลากหลาย รวบรวมเรื่องราวในยุค 1960’s - 1970’s ถ่ายทอดออกมาเป็นอาร์ตเวิร์คสีสันสดใส แน่นอนครับว่าในความสนุกสนาน มีอะไรแฝงมาให้เราได้ขบคิดกันอีกเช่นเคย โดยหลัก ๆ ของเรื่องราวใน Collection นี้ คือ การต่อสู้ในสงคราม และการต่อต้าน เช่นกันกับที่เราจะเห็นได้จากหลาย ๆ แบรนด์ที่เข้าร่วมในงานครั้งนี้ แต่ต้องบอกว่า STUDIO D’ARTISAN ยังมีกลิ่นไอเรื่องราวที่เป็นวัฒนธรรมของผู้คนในยุคสมัยนั้นอีกด้วย เช่น ดนตรี และวิถีชีวิต

[ทหารอเมริกาในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2], [การปักลายบนเสื้อ Souvenir Jacket], [ภาพทหารช่วง WW2 สวมใส่ Souvenir Jacket]

เริ่มกันที่ Souvenir Jacket ที่ใช้เทคนิคทั้งการปักที่สวยงามประณีต ซึ่งเจ้าเสื้อ Souvenir Jacket หรือในอีกชื่อคือ Sukajan Jacket นี้ ก็มีจุดกำเนิดมาจากญี่ปุ่นเช่นเดียวกันกับแบรนด์ แต่ต้องย้อนกลับไปอีกถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาที่สงครามใกล้สิ้นสุดลง ทหารอเมริกาต้องการจะมีเสื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก เสื้อประเภทนี้ก็ได้ถือกำเนิดนับแต่นั้น ในยุคนั้นมักปักเป็นรูปนกอินทรีย์ที่สื่อถึงอเมริกา และรูปเสือที่สื่อถึงญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นเสื้อ Souvenir Jacket หรือ Sukajan Jacket ถือได้ว่าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของสงครามมาตั้งแต่ต้น

[เครื่องบินของหน่วย Wild Weasel], [ทหารเวียดนาม ยิงเครื่องบินรบ]

สำหรับเสื้อในรุ่นนี้สามารถใส่ได้ 2 ด้าน และทางแบรนด์ก็ได้ดีไซน์ทั้งสองด้าน ให้มีลูกเล่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยลวดลายบนตัวผ้าฝั่งหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของฝั่งอเมริกา หน่วยทหารอากาศ Wild Weasel และเมื่อเปลี่ยนเป็นอีกด้าน จะบอกเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของทหารเวียดนามฝั่งคอมมิวนิสต์ อีกทั้งด้านหน้าและด้านหลังยังมีความสัมพันธ์สอดคล้องกัน เป็นการนำเอาการต่อสู้ที่ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเองมาบรรจุไว้บนตัวเสื้อ ผลิตมาในจำนวนจำกัดเพียง 50 ตัว เท่านั้น

[เสื้อ Raglan Style ในยุค 1970’s]

ต่อกันที่เสื้อยืด Raglan Style หรือในชื่อเล่นที่เรามักเรียกกันว่า เสื้อยืดไหล่สโลปแขนสามส่วน จุดกำเนิดเริ่มต้นมาจากการเป็นเสื้อของกีฬาเบสบอล สู่การถูกใช้เป็นเสื้อวงดนตรีในยุคสมัยนั้น จนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคสมัยนั้น และยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย ในรุ่นนี้สกรีนลายการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วย Wild Weasel กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา มีเพียง 50 ตัว เท่านั้น

[เครื่องแบบทหารที่ใช้ผ้า Mitchell Camo]

[ตัวอย่าง สี Signal Color]

ชิ้นสุดท้ายของ Collection นี้ กับ Item ที่ขาดไม่ได้ และเชื่อว่าหลายคงรอคอยเช่นกันอย่าง กางเกงยีนส์ ในรุ่นนี้ใช้ Model SP - 108 โดยทรงนี้ช่วงต้นขาจะมีเนื้อที่เพื่อให้สวมใส่สบาย และจะเรียวลงช่วงปลายขา ผ้าทอด้วยเครื่อง G3 เนื้อผ้ามีความ Slubby น้ำหนัก 14 Oz. 100% Cotton เส้นด้ายต่าง ๆ ใช้สีน้ำเงิน เหลือง และแดง ซึ่งเป็นสี Signal Color ที่ใช้ในสงครามของเหล่าทหาร ยังได้มีการนำเอาผ้า Mitchell Camo ซึ่งเป็นผ้าที่ถูกใช้ในเครื่องแต่งกายของเหล่าทหารในช่วงสงครามเวียดนาม มาใช้เป็นส่วนประกอบในกางเกงรุ่นนี้อีกด้วย สำหรับท่านที่ซื้อกางเกงยีนส์ ยังจะได้รับผ้าเช็ดหน้าแถมไปด้วย เป็นผ้าเช็ดหน้าสกรีนลายเรื่องราวในยุคนั้น ทั้ง สงคราม ฮิปปี้ ดนตรี และวิถีชีวิต ที่ถือได้ว่าถ่ายทอดคอนเซ็ปต์หลักของ Collection นี้ได้อย่างชัดเจน สำหรับกางเกงมีเพียง 100 ตัว เท่านั้น และมีการ Run Numbers ในทุกตัว

ภายในงานยังจะได้พบกับทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังของ STUDIO D’ARTISAN ที่มีทั้งกิจกรรมและของแจกของแถมมาให้อีกมากมาย

24 พ.ย. นี้ พบกันที่ ลาน Parc Paragon ห้างสรรพสินค้า Siam Paragon